หน้าแรก | ข่าวสาร
สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับ คณะกรรมการวิชาการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดโครงการสัมมนาระดมความคิดเห็นเรื่อง “การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีในมุมมองสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้รับความรู้ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามนโยบายของรัฐบาล และได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิควิธีการอ่านเอกสารประกอบงบประมาณ ตลอดแนวคิดและความคิดเห็นจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี อันจะทำให้กระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน โดยมี รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำหนดแผนการดำเนินงานเสริมสร้างความรู้ในวงงานนิติบัญญัติ ในคณะกรรมการวิชาการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการสัมมนา พร้อมด้วยผู้เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. และผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา เข้าร่วมการสัมมนาเป็นจำนวนมาก สำหรับหัวข้อการสัมมนาระดมความคิดเห็นครั้งนี้คือเรื่อง “หลักการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการพิจารณาเอกสารประกอบงบประมาณ” มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายนันทิวัฒน์ สามารถ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญประจำสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ดร.พรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ดำเนินการเสวนาโดย ดร.สมชัย จิตสุชน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ในการสัมมนาครั้งนี้ทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้เรื่องการอ่านเอกสารประกอบงบประมาณ โครงสร้างงบประมาณและหลักการของการจัดทำงบประมาณ นอกจากนี้ยังได้รับทราบภาพรวมของหนี้สาธารณะที่เกิดจากการกู้ยืมของรัฐบาล ซึ่งแตกต่างจากหนี้ครัวเรือนที่เกิดจากการกู้ยืมของประชาชน ในการสัมมนาครั้งนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลงบประมาณในเชิงลึก กอรปกับเอกสารประกอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณมีจำนวนมาก ดังนั้น ข้อเสนอแนะจากการสัมมนาครั้งนี้คือควรจัดทำเอกสารงบประมาณที่สั้น กระชับ และสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ( งานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ 306-308 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2)