ภาพกิจกรรม

        เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 สถาบันพระปกเกล้าร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “กระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom แบบ Hybrid

        โดยดำเนินการสัมมนาในห้องประชุมควบคู่ไปกับการสัมมนาออนไลน์พร้อมกันทั้ง 3 เวทีที่จังหวัดเชียงราย, ลำปาง และพะเยา และงเชื่อมต่อกับวิทยากรกลางที่ห้องประชุมส่วนกลางที่ห้องประชุมย่อย1-2 ณ สถาบันพระปกเกล้า โดยผู้รับหน้าที่วิทยากรส่วนกลาง คือ ผศ. ดร. ทพ. วีระศักดิ์ พุทธาศรี ทำหน้าที่คืนข้อมูลเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพ ก่อนที่จะส่งต่อบทบาทการดำเนินกิจกรรมสัมมนาให้แต่ละจังหวัดได้ดำเนินการกันเอง ซึ่งมีวิทยากรกระบวนการจากสถาบันพระปกเกล้า โดย ดร.ชลัท ประเทืองรัตนา ดร.ศรัณยุ หมั้นทรัพย์ และนายปุรวิชญ์ วัฒนสุข ดำเนินกระบวนการในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด

       โดยผู้เข้าร่วมสัมมนามาจากหลากหลายหน่วยงาน เช่น นักวิชาการสาธารณสุข เครือข่ายคนพิการ ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดลำปาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ผู้ให้บริการสาธารณสุขทั้งระดับจังหวัด,อำเภอและระดับท้องถิ่น เครือข่ายเด็กและเยาวชน เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา เครือข่ายแรงงานนอกระบบฯ เครือข่ายแรงงานนอกระบบ เครือข่ายชุมชนแออัด เป็นต้น

        บรรยากาศในการสัมมนาผู้เข้าร่วมสัมมนามีความตื่นตัวในการแสดงความคิดเห็นตลอดทั้งกิจกรรมและประทับใจในรูปแบบกิจกรรมที่เป็น Hybrid อีกทั้งยังมีความกระตือรือร้นในการเสนอให้มีการผลักดันเรื่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบผ่านความร่วมมือกัน 3 ฝ่าย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ รูปแบบเวทีสามารถส่งข้อเสนอหรือความคิดเห็นให้กลับส่วนกลางได้ทันทีเพราะ เวทีมีความกระชับ รูปแบบกระบวนการทำให้ผู้เข้าร่วมได้ร่วมกันแชร์ข้อมูลอย่าง ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมเห็นว่าการดำเนินการกิจกรรมแบบ Hybrid เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังต้องป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในช่วงสุดท้ายของกิจกรรมจึงเป็นการให้ตัวแทนของแต่ละจังหวัดร่วมกันคืนข้อมูลสะท้อนความคิดเห็นของแต่ละจังหวัดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกับส่วนกลางที่นำโดยหมอวีระศักดิ์ เพื่อให้ส่วนกลางนำสิ่งที่ได้รับในวันนี้ไปเป็นข้อผลักดันพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป